ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิว

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิว

สิวเป็นปัญหาผิวที่หลายคนต้องเจอ ไม่ว่าจะวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ แต่บ่อยครั้งเรามักจะเจอ “ความเชื่อผิดๆ” เกี่ยวกับสิว ที่ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยให้สิวหาย ยังอาจทำให้สิวแย่ลงกว่าเดิมอีกด้วย มาลองดูกันว่ามีเรื่องไหนบ้างที่หลายคนยังเข้าใจผิดอยู่

  1. สิวเกิดจากความสกปรก

ความจริง : สิวไม่ได้เกิดจากความสกปรกเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น ฮอร์โมน การผลิตน้ำมันผิวมากเกินไป การอุดตันของรูขุมขน รวมถึงพันธุกรรม การล้างหน้าบ่อยเกินไปด้วยซ้ำ อาจทำให้ผิวแห้งและกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น จนสิวเห่อหนักกว่าเดิม

  1. บีบสิวแล้วจะหายเร็วขึ้น

ความจริง : การบีบสิวทำให้ผิวอักเสบมากขึ้น เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจาย และเสี่ยงทิ้งรอยแดงรอยดำ หรือแม้แต่แผลเป็นหลุมสิว การปล่อยให้สิวสุกแล้วใช้ยารักษาหรือพบแพทย์จะปลอดภัยกว่ามาก

  1. ใช้ครีมเยอะๆ สิวจะหายไว

ความจริง : การใช้สกินแคร์หรือยารักษาสิวเกินความจำเป็น ไม่ได้ช่วยให้สิวหายไวขึ้น แต่กลับเสี่ยงทำให้ผิวอุดตัน ระคายเคือง และสิวลุกลาม ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวมันและผิวเป็นสิวง่าย เน้น oil-free และ non-comedogenic

  1. สิวเป็นแค่ปัญหาวัยรุ่น

ความจริง : สิวไม่ได้เกิดแค่ในวัยรุ่น ผู้ใหญ่ก็เป็นสิวได้เช่นกัน โดยเฉพาะ “สิวฮอร์โมน” ที่เกี่ยวข้องกับรอบเดือน ความเครียด การพักผ่อนไม่พอ หรือการใช้ยาบางชนิด

  1. ครีมกันแดดทำให้เกิดสิว

ความจริง : บางคนอาจใช้ครีมกันแดดแล้วมีสิวขึ้นหรือเกิดผดร้อน จึงทำให้ไม่กล้าใช้ครีมกันแดดอีก แต่นั่นอาจเป็นเพราะการใช้ครีมกันแดดที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวหรือใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารเคมีบางชนิด อย่างเฮลิโอเพล็กซ์หรือสารที่มีคุณสมบัติช่วยกระจายแสงยูวี ซึ่งมีส่วนก่อให้เกิดผดตามใบหน้า ผู้ที่มีปัญหาสิวหรือเป็นสิวง่ายจึงควรใช้ครีมกันแดดที่มีซิงก์ออกไซด์ (Zinc Oxide) เป็นส่วนประกอบ ซึ่งซิงก์หรือสังกะสีเป็นสารอาหารที่มีสรรพคุณต้านการอักเสบ อีกทั้งยังมีผลลัพธ์ยืนยันจากการศึกษาในวงกว้างว่าสารอาหารชนิดนี้อาจช่วยรักษาสิวได้

 

เมื่อเราทำความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิวไปแล้ว คราวนี้มาดูว่าสิวจริงๆ แล้วคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร และมีประเภทไหนบ้าง

มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิวกันเถอะ

หลายคนอาจเคยเชื่อว่าการล้างหน้าไม่สะอาดหรือกินของมันๆ เพียงอย่างเดียวทำให้เกิดสิว แต่ความจริงแล้ว สิวเป็นปัญหาผิวที่มีสาเหตุซับซ้อนมากกว่านั้น และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย

สิวคืออะไร?

สิว (Acne) เกิดจาก การอุดตันของรูขุมขน ซึ่งประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

  1. การผลิตน้ำมัน (Sebum) มากเกินไป จากต่อมไขมันใต้ผิว
  2. การอุดตันของเซลล์ผิว ที่ตายและไม่ถูกผลัดออกตามปกติ
  3. การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย acnes ที่อยู่ในรูขุมขน

เมื่อทั้งสามสิ่งนี้รวมกัน ก็จะเกิดการอักเสบและกลายเป็นสิวในที่สุด

 

ปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดสิว

  • ฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศแอนโดรเจน ทำให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น
  • พันธุกรรม คนที่มีครอบครัวเป็นสิวง่าย ก็มีโอกาสเป็นมากขึ้น
  • ความเครียดและการพักผ่อน ฮอร์โมนความเครียดทำให้สิวแย่ลง
  • อาหาร น้ำตาลสูง ของทอด หรือผลิตภัณฑ์นมบางชนิดอาจทำให้สิวรุนแรงขึ้น
  • ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันผิว เช่น เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ที่ไม่เหมาะกับผิวเป็นสิวง่าย

 

ประเภทของสิว

  • สิวอุดตัน (Come Donal acne) เช่น สิวหัวขาว สิวหัวดำ
  • สิวอักเสบ (Inflammatory acne) เช่น สิวแดง สิวหนอง
  • สิวฮอร์โมน (Hormonal acne) มักขึ้นตามคาง กราม รอบปาก โดยเฉพาะในผู้หญิง
  • สิวเรื้อรัง ที่มักเกิดซ้ำและรักษายาก

สิ่งที่ควรทำเมื่อเป็นสิว

สิวเป็นปัญหาผิวที่หลายคนเจอ และมักทำให้กังวลใจ แต่การดูแลอย่างถูกวิธีจะช่วยให้สิวดีขึ้นได้เร็ว และลดโอกาสเกิดรอยสิวในอนาคต มาดูกันค่ะว่าเวลามีสิวแล้วควรทำอะไรบ้าง

  1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หากมีสิวอักเสบรุนแรง สิวเรื้อรัง หรือสิวที่รักษาเองแล้วไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาเฉพาะที่ ยารับประทาน หรือการทำทรีตเมนต์

  1. ดูแลผิวอย่างอ่อนโยน
  • ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน วันละ 2 ครั้ง เช้า–เย็น
  • หลีกเลี่ยงการขัด ถู หรือใช้โฟมล้างหน้าที่แรงเกินไป เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้ผิวอักเสบ
  • ใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ ซับหน้าแทนการเช็ดแรงๆ
  1. ใช้เครื่องสำอางที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน

เลือกผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเครื่องสำอางที่มีคำว่า “non-comedogenic” หรือ “oil-free” เพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว

  1. จัดการความเครียด

แม้ความเครียดจะไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของการเกิดสิว แต่ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาเมื่อเครียดสามารถทำให้สิวแย่ลงได้ การออกกำลังกายเบาๆ การพักผ่อนให้เพียงพอ หรือทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย จะช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้น

สรุป

การเข้าใจเรื่องสิวอย่างถูกต้องจะช่วยให้เราดูแลผิวได้ตรงจุด และลดปัญหาสิวเรื้อรังหรือรอยสิวในอนาคตได้ ที่สำคัญคือ ไม่ควรเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน แต่ควรเลือกข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ผิวหนัง

สิวไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เกินจะดูแล หากใส่ใจสุขภาพผิวอย่างอ่อนโยน ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่อจำเป็น ก็จะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น และไม่ทิ้งรอยให้กังวลในภายหลัง