Ulthera (อัลเทอร่า) เทคนิคกระชับ ใหม่ล่าสุด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม
Ulthera SPT
- S – See เห็นหน้าจอแบบเรียลไทม์ สามารถเห็นลักษณะโครงสร้าง และปัญหาของผิวได้ละเอียดและแม่นยำ
- P – PLAN วิเคราะห์ปัญหา วางแผนรักษาได้ตรงจุด เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด
- T- TREAT ลงมือทำตามแผนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หน้าดูกระชับ อ่อนเยาว์ขึ้นในแบบที่เป็นคุณ
การยกกระชับผิวและลดริ้วรอย ที่จะช่วยเรียกคืนผิวอ่อนเยาว์ให้กลับมา โดยใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง (High Intensity Focused Ultrasound) ยิงลงไปใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวหดตัวและยกกระชับขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน สามารถแก้ปัญหาผิวได้แม่นยำ ตรงจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ช่วยชะลออายุผิว และลดโอกาสเกิดริ้วรอยในอนาคต ได้จัดจำหน่ายครั้งแรกในปี 2004 และเป็นเครื่องเดียวที่ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา
หลักการทำงานของ Ulthera (อัลเทอร่า)
แพทย์จะยิงคลื่นเสียงจากตัวเครื่องส่งไปยังใต้ผิว เพื่อให้เกิดความร้อน 60-70°C ที่ลงลึกถึงใต้ผิวหนัง ด้วยจุดพลังงานขนาด 1 mm ลักษณะเป็นจุดไข่ปลาเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิว สามารถแก้ไขปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อย มีริ้วรอย ผิวยกกระชับขึ้นได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด
ผิวชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) คือ ชั้นกล้ามเนื้อส่วนบนที่อยู่ลึกลงไปในชั้นผิว อยู่ระหว่างชั้นไขมันใต้ผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อ มีระดับความลึกที่ 4.5 mm เป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมยกกระชับหรือผ่าตัดดึงหน้า
Ulthera มีหัวยิงลงลึกถึงชั้นผิวหลายระดับ เพื่อแก้ปัญหาที่แตกต่างกันในแต่ละชั้นผิว และลงลึกถึงผิวชั้น SMAS
- ความลึก 5 mm ช่วยลดริ้วรอยผิวชั้นบน ชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้
- ความลึก 3 mm กระชับชั้นไขมัน กระตุ้นคอลลาเจน ลดความหย่อนคล้อยของผิว
- ความลึก 3 mm กระชับชั้นไขมัน กระตุ้นคอลลาเจน ลดความหย่อนคล้อยของผิว
ผลลัพธ์หลังทำ Ulthera (อัลเทอร่า)
ผิวบริเวณที่ทำ จะรู้สึกได้ถึงผิวที่ยกกระชับเต่งตึงขึ้นทันที และริ้วรอยแลดูจางลง ผิวหน้าเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวสวยสุขภาพดี รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนขึ้นในช่วงระยะเวลา 3-4 เดือนหลังทำ และจะสามารถยกกระชับอยู่ได้นาน ประมาณ 1-2 ปี ซึ่งผลลัพธ์ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล และวิธีการดูแลรักษาผิวพรรณอย่างต่อเนื่อง
*ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
Ulthera (อัลเทอร่า) เหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ
- ผู้ที่มีรอยเหี่ยวย่นตามจุดต่างๆ ใบบนหน้า บริเวณ อาทิ หน้าผาก คิ้วตก หนังตาตก ริ้วรอยรอบดวงตา ลำคอ ร่องแก้ม มุมปาก
- ผู้ที่มีไขมันบริเวณแก้มย้อย
- ผู้ที่มีเหนียง (ไขมันใต้คาง)
- ผู้ที่กรอบหน้าไม่ชัด ต้องการจัดกรอบหน้า เรียวกระชับ
- ผู้ที่มีปัญหาผิว ต้องการปรับสภาพผิว เรียบเนียน กระจ่างใส รูขุมขนกระชับ
- ผู้ที่ไม่ต้องการยกกระชับแบบผ่าตัด เพราะการทำ Ulthera ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
Ulthera (อัลเทอร่า) ทำบริเวณไหนได้บ้าง?
- ทั่วทั้งใบหน้า
- รอบดวงตา บริเวณใต้ตา
- หางคิ้ว
- มุมปาก
- ริ้วรอยร่องแก้ม
- ลำคอ
- หน้าท้อง
- หน้าท้อง
ระยะเวลาการรับบริการ Ulthera
ใช้เวลารักษาประมาณ 30 – 45 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ
ขั้นตอนการทำ Ulthera (อัลเทอร่า)
- เข้ามาปรึกษาแพทย์ แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัว ประวัติการผ่าตัด หรือประวัติการทำหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้าอย่างชัดเจน เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินว่าคนไข้เหมาะกับการทำหัตถการหรือไม่ และประเมินปัญหาบนใบหน้า วางแผนการปรับรูปหน้า แจ้งจำนวนการยิงช็อตได้อย่างเหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการออกแดดแรง หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่อาจทำให้ผิวบอบบางได้
- แพทย์จะแนะนำให้มาส์กยาชาทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาทีก่อนเริ่มยิง
- แพทย์เริ่มทำการยิงโดยจะเริ่มจากหัวยิงที่มีค่าพลังงานน้อยสุดและไล่ไปมากที่สุดจนครบจำนวนช็อตที่ได้วางแผนไว้
การดูแลหลังทำ Ulthera (อัลเทอร่า)
- หลังจากการทำสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
- อาจมีเพียงอาการบวมบางบริเวณเล็กน้อยเท่านั้น
- ดูแลตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
Ulthera Prime – ยกกระชับผิวหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
Ulthera Prime คืออะไร?
Ulthera Prime เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวรุ่นล่าสุดที่ใช้เทคโนโลยี Focused Ultrasound หรือคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (HIFU) ที่สามารถปล่อยพลังงานลงไปลึกถึง ชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า แต่ Ulthera Prime สามารถทำได้โดย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และปลอดภัย
เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาให้ แม่นยำกว่ารุ่นก่อน ๆ เพราะสามารถ “เห็นชั้นผิว” ผ่านระบบ See & Treat ทำให้แพทย์ส่งพลังงานไปได้ตรงจุดตามที่ต้องการ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่กระชับ เต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
จุดเด่นของ Ulthera Prime
1.เทคโนโลยี MFU-V (Microfocused Ultrasound with Visualization)
- ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่โฟกัสได้เฉพาะจุด ส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า
- มีระบบ Visualization (การมองเห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์) ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างผิวในขณะทำการรักษา ปรับจุดยิงได้แม่นยำขึ้น
2. หน้าจอที่ดีขึ้น – Full HD ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
- ขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นประมาณ 35% จากรุ่นก่อน
- ภาพที่แสดงได้คมชัดขึ้น ความละเอียดสูงขึ้น ซึ่งช่วยให้แพทย์เห็นรายละเอียดชั้นผิวได้ชัดเจนกว่าเดิม
3. ประมวลผลเร็วขึ้น / เวลาทำลดลง
- มีการระบุว่าระบบประมวลผลเร็วขึ้นกว่าเดิมประมาณ 20%
- ทำให้ระยะเวลาการรักษาโดยรวมลดลง คนไข้รู้สึกสบายขึ้น เจ็บน้อยลง เพราะไม่ต้องทนอยู่กับหัวยิงนาน ๆ
4.ผลลัพธ์ที่คงอยู่นาน และเริ่มเห็นผลเร็วขึ้น
- หลังทำจะเห็นการยกกระชับขึ้นเล็กน้อยทันทีประมาณ 20-30% จากการหดตัวของเนื้อเยื่อในชั้น SMAS
- ผลชัดเจนมากขึ้นภายใน 2-3 เดือน เพราะมีการกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่
- ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว การดูแลหลังทำ เป็นต้น
5. การใช้งานของแพทย์และประสบการณ์ของคนไข้ที่ดีขึ้น
- เครื่องมีดีไซน์ใหม่ที่ทันสมัย ใช้งานสะดวกขึ้นทั้งต่อผู้ทำหัตถการและผู้รับบริการ
- เสียงเครื่องที่เงียบลง ช่วยลดความกังวลของคนไข้ในระหว่างทำ
- ความแม่นยำสูงขึ้นด้วยภาพ Real-Time Visualization ช่วยลดโอกาสยิงพลังงานพลาดหรือกระทบเนื้อเยื่อที่ไม่ต้องการ
ความแตกต่างระหว่าง Ulthera กับ Ulthera Prime
- เทคโนโลยีและความแม่นยำ
- Ulthera (รุ่นเดิม)
ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (HIFU) ยิงไปยังชั้นผิว SMAS เพื่อยกกระชับ แต่ความแม่นยำในการกำหนดตำแหน่งพลังงานอาจน้อยกว่ารุ่นใหม่ - Ulthera Prime (รุ่นใหม่)
มาพร้อมระบบ See & Treat ที่ทำให้แพทย์ “มองเห็นชั้นผิว” ระหว่างทำการรักษา ทำให้ยิงพลังงานได้ แม่นยำและตรงจุดกว่า ลดความเสี่ยงของการยิงพลาดชั้นผิว และช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสม่ำเสมอ
- ความรู้สึกขณะทำ (ความเจ็บ/สบาย)
- Ulthera รุ่นเดิม : หลายคนรู้สึกเจ็บค่อนข้างมากกว่า ต้องใช้ยาชาช่วยเยอะ
- Ulthera Prime : พัฒนาการส่งพลังงานให้ นุ่มนวลขึ้น เจ็บน้อยลง ทำให้คนไข้สบายกว่ารุ่นเดิมและสามารถทนได้โดยไม่ต้องกังวล
- ความเหมาะสมกับสภาพผิว
- Ulthera รุ่นเดิม : เหมาะกับคนที่ผิวหนาหรือมีความหย่อนคล้อยชัดเจน
- Ulthera Prime : เหมาะกับคนที่ผิวหนาหรือมีความหย่อนคล้อยชัดเจน
- ผลลัพธ์และความต่อเนื่อง
- ทั้งสองรุ่นให้ผลใกล้เคียงกันในเรื่องการ ยกกระชับ สร้างคอลลาเจนใหม่ แต่ Ulthera Prime มักให้ผลลัพธ์ที่ สม่ำเสมอและเป็นธรรมชาติมากกว่า
- ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12–18 เดือน ทั้งคู่ แต่ Ulthera Prime ช่วยให้เห็นความเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้คนรอบข้างไม่รู้สึกว่าหน้าเปลี่ยนกะทันหัน
- ความคุ้มค่า
- Ulthera รุ่นเดิม : ยังถือว่าได้มาตรฐาน แต่ความเจ็บและข้อจำกัดบางอย่างอาจทำให้ไม่เหมาะกับทุกคน
- Ulthera Prime : เหมาะกับคนที่ต้องการเทคโนโลยีที่ สบายกว่า และแม่นยำกว่า
ทำไมต้องเลือก Ulthera Prime?
- ปลอดภัย ได้มาตรฐาน US FDA
- ผลลัพธ์ชัดเจน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และดีขึ้นเรื่อย ๆ ใน 2–3 เดือน
- อยู่ได้นาน 12–18 เดือน ขึ้นกับการดูแลตัวเอง
- ไม่เจ็บ ไม่บวม ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันต่อได้ทันที
- เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวบอบบางหรือผู้ที่เคยทำหัตถการอื่นมาก่อน
เหมาะกับใครบ้าง?
Ulthera Prime เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาดังนี้
- ผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด
- มีเหนียง หรือผิวใต้คางหย่อน
- ร่องแก้มลึก มุมปากตก หนังตาตก
- ต้องการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่อายุ 25 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมี สัญญาณแห่งวัย
ผลลัพธ์ที่ได้จาก Ulthera Prime
- กรอบหน้าคมชัด ลดปัญหาหน้าหย่อนคล้อย
- ลดเลือนริ้วรอย ร่องแก้ม มุมปากตก
- ยกกระชับผิวรอบดวงตา หนังตาตก
- คอลลาเจนใหม่ถูกสร้าง ผิวดูอิ่มฟู
- ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้น
Ultrhera Prime แต่ละตำแหน่งใช้กี่ Line ?
- Ulthera Prime รอบดวงตา 200 Line
- Ulthera Prime แก้ม 300 Line
- Ulthera Prime แก้ม+เหนียง 500 Line
- Ulthera Prime ทั่วหน้า 700 Line
- Ulthera Prime ทั่วหน้า+คอ 1,000 Line
ขั้นตอนการทำ Ulthera Prime
- การปรึกษาแพทย์
แพทย์จะทำการวิเคราะห์ปัญหาผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล
- เตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการทำหัตถการ
บริเวณที่จะทำการรักษาจะถูกทำความสะอาดและทายาชาเพื่อช่วยลดความเจ็บ
- เริ่มทำหัตถการ
แพทย์จะใช้เครื่อง Ulthera Prime ยิงพลังงานไปยังชั้นผิวตามตำแหน่งที่วางแผนไว้ โดยขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที
ระยะเวลาเห็นผลและความคงอยู่
หลังทำสามารถเห็นการยกกระชับเบื้องต้นได้ทันที และจะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 2–3 เดือน หลังจากคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างเต็มที่ และผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12–18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคล
การเตรียมตัวก่อนทำ Ulthera Prime
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ – เพื่อให้ผิวแข็งแรงพร้อมรับการรักษา
- งดการแต่งหน้าในวันทำ – เพื่อความสะอาดและปลอดเชื้อระหว่างทำ
- เลี่ยงการทำหัตถการที่ผิวแรง ๆ อย่างเลเซอร์หรือทรีตเมนต์รุนแรงก่อนเข้ารับการรักษาอย่างน้อย 1–2 สัปดาห์
- หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาบางชนิด ควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้า เช่น ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาที่เกี่ยวกับผิวหนัง
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น
การดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera Prime
หลังการทำ Ulthera Prime ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่เพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจนและยาวนาน ควรดูแลดังนี้
- งดการสัมผัสหรือกดแรง ๆ บริเวณใบหน้าใน 24 ชั่วโมงแรก
- เลี่ยงการออกแดดจัดและความร้อนสูง เช่น ซาวน่า หรือการออกกำลังกายหนัก ๆ ใน 1–2 วันแรก
- ทาครีมบำรุงและครีมกันแดดสม่ำเสมอ เพื่อปกป้องผิวและช่วยฟื้นฟูคอลลาเจน
- สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ หลังทำทันที แต่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
- ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนเพียงพอ เพื่อช่วยให้คอลลาเจนสร้างตัวได้อย่างเต็มที่
- เข้ารับการติดตามผลตามนัด เพื่อให้แพทย์ประเมินผลลัพธ์และให้คำแนะนำเพิ่มเติม
สรุป – ทำไม Ulthera Prime ถึงเป็นตัวเลือกยอดนิยม?
เพราะ Ulthera Prime ตอบโจทย์ทั้ง ความปลอดภัย ความแม่นยำ และผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพักฟื้น ทำครั้งเดียวเห็นผลยาวนาน เหมาะสำหรับคนที่อยากยกกระชับ ปรับรูปหน้า และย้อนวัยผิวโดยไม่ต้องเจ็บตัว
FAQ – คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ulthera Prime
- ทำ Ulthera Prime เจ็บไหม?
Ulthera Prime พัฒนามาให้ นุ่มนวลกว่ารุ่นเดิม ความเจ็บระหว่างทำจึงลดลงมาก ส่วนใหญ่คนไข้จะรู้สึกเพียง “ตึง ๆ ร้อน ๆ ใต้ผิว” แต่ไม่ถึงขั้นเจ็บจนทนไม่ได้ หากกังวล แพทย์สามารถทายาชาช่วยได้ ทำให้สบายใจขึ้น
- ควรทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
โดยทั่วไป ทำเพียง 1 ครั้งก็เห็นผล หลังทำจะรู้สึกผิวตึงขึ้นทันที และจะเห็นผลเต็มที่ในช่วง 2–3 เดือน เพราะร่างกายจะสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง
- กรณีผิวหย่อนคล้อยมาก แพทย์อาจแนะนำให้ทำซ้ำปีละ 1 ครั้งเพื่อคงผลลัพธ์
- กรณีผิวยังไม่หย่อนคล้อยมาก ทำปีละ 1 ครั้งก็เพียงพอเพื่อ ป้องกันผิวหย่อนในอนาคต
- เหมาะกับอายุเท่าไหร่?
Ulthera Prime เหมาะกับคนอายุ 25 ปีขึ้นไป
- วัย 25–35 ปี : เหมาะกับคนที่เริ่มมีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย ใช้เพื่อ ชะลอการเสื่อมของผิว และป้องกันริ้วรอย
- วัย 35 ปีขึ้นไป : ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ร่องแก้ม ร่องมุมปาก กรอบหน้าไม่ชัด ทำให้ดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเห็นได้ชัด